ในมหาลัย

โครงการชีวะสัญจร^^

ูไปเที่ยวร้อยเอ็ด^^

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เตือน วางโน๊ตบุ๊คบนตักเสี่ยงมะเร็ง

ปัจจุบัน แล็ปท็อป หรือ โน๊ตบุ๊ค กลายเป็นอุปกรณ์สุดไฮเทค ที่จำเป็นสำหรับวัยรุ่นหรือหนุ่มสาววัยทำงานหลายคนไปซะแล้ว นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทกับเรา ๆ ไปซะทุกด้าน และโน๊ตบุ๊คก็ดูเหมือนจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่แสนฮิตฮอตซะเหลือเกิน เพราะมันสามารถพกพาไปไหนได้สบาย
และด้วยความสะดวกสบาย พกพาง่ายของมันนี่แหละ ทำให้เจ้าโน๊ตบุ๊คสามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา แม้จะไม่มีโต๊ะให้วาง ก็วางบนตักของตัวเองได้อย่างง่าย ๆ พอ ๆ กับที่มันก็ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาได้อย่างง่าย ๆ อีกเช่นกัน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการเล่นโน๊ตบุ๊คบนตักนั้น ทำให้คนเจ็บป่วยกับมันได้จริง ๆ เหมือนกับกรณีของเด็กชายวัย 12 ปีชาวอเมริกัน ที่ติดนิสัยชอบเล่นโน๊ตบุ๊คไว้บนตัก แล้วอยู่กับมันวันละ 2-3 ชั่วโมง ปรากฏว่า 2 เดือนให้หลัง ผิวของเด็กก็ไหม้และด่างโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้โน๊ตบุ๊คอีกกว่า 10 ราย รายงานเข้ามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ว่าความร้อนจากโน๊ตบุ๊ค ทำให้ผิวไหม้และทำให้ผิวด่างเช่นเดียวกันกับกรณีดังกล่าว ขณะที่ทางทีมแพทย์เชื่อว่า คงจะมีผู้ที่ได้รับอันตรายจากความร้อนใต้โน๊ตบุ๊คมากกว่านั้นอย่างแน่นอน
งานนี้ บรรดาแพทย์ชาวอเมริกันก็เลยออกมาเตือนว่า ความร้อนที่ระบายออกมาบริเวณใต้โน๊ตบุ๊คนั้น ทำให้ผิวไหม้และหากติดนิสัยเล่นโน๊ตบุ๊คบนตักนาน ๆ ก็จะทำให้เป็นมะเร็งบริเวณหัวเข่าหรือต้นขาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้ ที่หลายคนชอบเอาโน๊ตบุ๊ควางบนตักซะเหลือเกิน เพราะมันทำให้รู้สึกอุ่นขึ้นได้ โดยไม่คำนึงถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น แพทย์จึงแนะนำให้ผู้ที่ชอบวางโน๊ตบุ๊คไว้บนตัก เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองเสียตั้งแต่บัดนี้ ขณะที่ทางด้านบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่างแอปเปิ้ล และเดลล์ ก็เคยเตือนผู้ใช้ว่าอย่าวางโน๊ตบุ๊คไว้บนตักเช่นกัน ทั้งนี้ ก็เพียงแค่อยากให้ผู้ใช้ได้ตระหนักถึงอันตรายระยะยาว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดมะเร็งได้ในอนาคต

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หนาวสุดรอบ 30 ปี กทม. แค่ 16 องศา

กรมอุตุฯ ประกาศฤดูหนาวปีนี้จะมีอากาศเย็นขึ้นหลายองศา คาดอุณหภูมิต่ำสุดทุบสถิติปี 52 ทั่วประเทศ ส่วนกรุงเทพฯ จะมีอุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา ขณะเดียวกันผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานีญาจะส่งผลให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนสูงขึ้นกว่าปกติ พร้อมเตือนรับมือพายุหมุนเขตร้อนและคลื่นพายุซัดฝั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2553 ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2554 สำหรับในปีนี้คาดว่าจะมีอากาศหนาวกว่าปีที่แล้ว และอุณหภูมิจะต่ำกว่าค่าปกติหรือค่าเฉลี่ยในรอบ 30 ปีเล็กน้อย
ในช่วงต้นฤดูระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีฝนตกชุกในบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้จะมีอากาศเย็นในบางวัน ส่วนมากตอนบนของภาค โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป
สำหรับการคาดหมายอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2553
ภาคเหนือ เช่น จ.เชียงราย จะมีอุณหภูมิ 6-8 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 11.1 องศา จ.เชียงใหม่ จะมีอุณหภูมิ 7-9 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 13.2 องศา และ จ.พิษณุโลก จะมีอุณหภูมิ 11-13 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 17.3 องศา ซึ่งการคาดหมายไม่รวมอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณยอดดอยและยอดภู
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จ.อุดรธานี จะมีอุณหภูมิ 7-9 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 14.3 องศา จ.เลย จะมีอุณหภูมิ 6-8 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 13.6 องศา จ.อุบลราชธานี จะมีอุณหภูมิ 12-14 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 15.3 องศา และ จ.นครราชสีมา จะมีอุณหภูมิ 12-14 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 17.3 องศา
ภาคกลาง เช่น จ.นครสวรรค์ จะมีอุณหภูมิ 13-15 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 16.8 องศา จ.สุพรรณบุรี จะมีอุณหภูมิ 14-16 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 18.0 องศา และ จ.กาญจนบุรี จะมีอุณหภูมิ 13-15 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 15.6 องศา
ภาคตะวันออก เช่น จ.สระแก้ว จะมีอุณหภูมิ 14-16 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 18.9 องศา และ จ.ชลบุรี จะมีอุณหภูมิ 16-18 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 21.3 องศา
ภาคใต้ เช่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะมีอุณหภูมิ 17-19 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 20.5 องศา และ จ.ภูเก็ต จะมีอุณหภูมิ 20-22 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 23.0 องศา
สำหรับกรุงเทพมหานคร ที่จะมีอุณหภูมิ 16-18 องศา ต่ำกว่าเมื่อปี 2552 ที่วัดได้ต่ำสุด 20.0 องศา
"ฤดูหนาวในปีนี้จะมีความหนาวเย็นกว่าปกติ มีปัจจัยจากปรากฏการณ์ลานีญา ทำให้มีปริมาณฝนและความชื้นสูง อีกทั้งยังมีความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย จึงทำให้ปีนี้อากาศหนาวมากขึ้นอย่างแน่นอน" นายสมชายกล่าว

วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2553

จ่าเฉย รีเทิร์น เตรียมดึงช่วยงาน สร้างภาพลักษณ์


ตำรวจสอบสวนกลาง พลิกชีวิต จ่าเฉย เตรียมดึงช่วยงานอีกครั้ง ชี้ถูกเด้งเข้ากรุไม่เป็นธรรม ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาว

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2553 พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า มีแนวคิดจะขอรูปปั้น "จ่าเฉย" มาปฏิบัติหน้าที่ในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง เนื่องจากเห็นว่า "จ่าเฉย" ถูกเด้งเข้ากรุไม่เป็นธรรม ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาว หรือถูกร้องเรียนเรื่องการเก็บส่วย จึงอยากทำเรื่องขอกลับเข้าทำงานในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ส่วนจะนำ จ่าเฉย ไปใช้ในหน่วยงานใดบ้างนั้น ยังต้องปรึกษากันก่อน

สำหรับความเป็นมาของจ่าเฉยนั้น เกิดขึ้นจากการความร่วมมือของภาคเอกชนต่าง ๆ ที่เล็งเห็นความลำบากของตำรวจจราจร จึงสร้างหุ่นจำลองตำรวจจราจร รูปลักษณ์เหมือนคน ส่วนสูง 180 เซนติเมตร ในท่ายืนตรง มีใบหน้าเคร่งขรึม และทำการส่งมอบให้ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ดูแลงานด้านจราจร เป็นผู้ดำเนินการให้แต่ละ สน. นำไปตั้งประจำตามจุดต่าง ๆ

แต่หลังจากที่ จ่าเฉย ออกปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่นาน พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ อดีต ผบช.น.ก็มีคำสั่งให้ทุก สน.เก็บ จ่าเฉย เข้ากรุ หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่า เมื่อมี จ่าเฉย ทำให้ตำรวจตัวจริงไม่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกรณีดังกล่าวมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ส่วนการกลับมาของ จ่าเฉย ในครั้งนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ จากเดิมเป็นชุดตำรวจจราจร เปลี่ยนเป็นชุดตำรวจเข้าเวรใส่สายแดง ติดตราอาร์มของแต่ละ บก.ในสังกัด บช.ก. พร้อมทั้งปรับแต่งสีให้สดใส และหน้าตายิ้มแย้ม

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ดินทรุดตัวและแยกเป็นทางยาว บนดอยแม่สลอง



เกิดดินทรุดตัวและเกิดรอยแยกเป็นทางยาว บนดอยแม่สลอง จ.เชียงราย ส่งผลให้บ้านเรือนและโรงแรมทรุดตัวได้รับความเสียหาย
เกิด ดินทรุดตัวจนเกิดรอยแยกจากกันเป็นแนวยาว กว่า 300 เมตร และทำให้สิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมีทั้งบ้านเรือนราษฎร 8 หลัง และโรงแรม 1 แห่ง ที่ตั้งอยู่แนวรอยแยกของดิน บริเวณบ้านสันติคีรี หมู่ที่ 1 ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ได้รับความเสียหาย ซึ่งบ้านบางหลังนอกจากหลังคา ฝาบ้านและเพดานพัง ยังทำให้ตัวบ้านทรุดตัวลง กว่า 70 เซนติเมตร หลังเกิดฝนที่ตกติดต่อกันมาหลายวัน
ล่าสุด ทางองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก ได้อพยพราษฎร จำนวน 8 ครอบครัว ตรงจุดเกิดเหตุออกจากบ้านทันที และได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าไปอย่างเด็ดขาด พร้อมจะเร่งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสำรวจหาสาเหตุของการเกิดดิน ทรุดตัวแล้ว

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

เบรกองค์การค้าขึ้นราคาหนังสือ

บอร์ด องค์การค้าฯ เตรียมยื่นกู้ ธ.กรุงศรีอยุธยา 1.5 พันล้านบาท ใช้เคลียร์หนี้มหึมา แต่เบรก ผอ.องค์การค้าฯ คนใหม่ที่เล็งขึ้นราคาหนังสือเพื่อหารายได้เพิ่มให้องค์กร ชี้ต้องหารือ ศธ. สพฐ.ก่อน ไม่ใช่ตัดสินใจด้วยตัวเอง
นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการสวัสดิการ และสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งตนเป็นประธาน ได้มีมติความเห็นชอบในหลักการตามที่องค์การค้า สกสค.ได้ขอความเห็นชอบดำเนินการกู้ยืมเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 1,500 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูองค์การค้าของ สกสค. ที่ได้ผ่านการพิจารณาไว้แล้วก่อนหน้าที่ตนมารับตำแหน่งปลัด ศธ. โดยที่ประชุมได้เห็นด้วยที่ให้มีการทำบันทึกความร่วมมือระหว่างธนาคารกรุง ศรีอยุธยาและ อค.สกสค. แต่ขณะเดียวกันเพื่อให้การใช้เงินดังกล่าวเป็นประสิทธิภาพ เพราะธนาคารจะแบ่งการโอนเงินมาให้ทีละก้อน จึงได้สั่งการให้องค์การค้า สกสค. ไปจัดทำแผนการใช้เงินและการผ่อนชำระหนี้แต่ละก้อนมาเสนอต่อที่ประชุม
"ที่ ประชุมห่วงว่าเมื่อ อค.สกสค.นำเงินที่กู้มาใหม่นี้เพื่อใช้หนี้เก่าก็กลัวว่าพอหนี้หมด แต่จะไม่มีเงินเหลือเพื่อจะทำอื่น ๆ ให้งอกเงย จึงอยากให้ไปวางแผนว่าตามแผนฟื้นฟู อค.สกสค.ที่ได้เห็นชอบไปแล้วนั้นจะเริ่มจากการนำเงินดังกล่าวมาพัฒนาเรื่อง ใดก่อน เช่น การนำเงินมาเคลียร์หนี้บางส่วน โดยตอนนี้ทราบว่า อค.สกสค.ได้ติดตามเคลียร์หนี้ที่มีผู้ติดค้าง อค.สกสค. ได้เงินมาจำนวนหลายร้อยล้านบาท และ อค.สกสค.ก็นำเงินดังกล่าวไปทยอยเคลียร์หนี้ แต่ก็ยังจำเป็นต้องหาแหล่งเงินกู้เพื่อมาพัฒนาสร้างความเข้มแข็งแก่ธุรกิจ ไม่เช่นนั้นเราจะอยู่ไม่ได้ ต่อจากนั้นก็จะต้องมาพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพโรงพิมพ์และทำการตลาดมากขึ้น" ปลัด ศธ.กล่าว
ส่วนกรณีที่นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผอ.องค์การค้า สกสค.มีแนวคิดว่าจะปรับขึ้นราคาหนังสือเรียนในปีการศึกษาหน้านั้น เรื่องนี้ไม่ได้มีการหารือในวาระการประชุม แต่ตนได้เชิญนายสันติภาพมาหารือ ซึ่งที่ประชุมก็มีการให้ความเห็นในเรื่องนี้ และได้ทำความเข้าใจกับนายสันติภาพแล้วก็มีความเข้าใจตรงกันว่าจะไม่มีการ กระทำใดในเรื่องนี้ อีกทั้งการจะปรับเพิ่มหรือลดราคาหนังสือเรียนจะต้องเชิญผู้เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของ ศธ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อค.สกสค. สมาคมหรือสำนักพิมพ์มาหารือร่วมกัน เพราะถือเป็นเรื่องนโยบายจะต้องได้รับการเห็นชอบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และยังต้องศึกษาทิศทางการตลาดประกอบด้วย ที่สำคัญการจะปรับเพิ่มราคาหรือลดต้องคำนึงถึงคุณภาพของกระดาษที่นำมาใช้ เนื้อหา ราคากลาง เป็นต้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเรื่องการปรับราคาหนังสือนี้จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

สธ.เตือนนุ่งสั้น เสี่ยงไข้เลือดออก


สธ.เตือน สาวฮิตขาสั้น ระวังตกเป็นเป้าโจมตีจากยุงลาย พบอายุ 10 - 14 ปี ป่วยมากสุด แนะยากันยุงในเด็กต่ำกว่า 4 ปี ต้องไม่มีสารดีอีอีที ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกปีนี้ สูงกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 2 เท่าตัว ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2553 พบป่วยแล้วทั่วประเทศ จำนวน 86,407 รายเฉลี่ยวันละ 785 ราย เสียชีวิตแล้วรวม 100 ราย ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงมักจะพบในอายุ 10 - 14 ปี
แต่สิ่งที่น่าห่วงและเพิ่มความเสี่ยงในการป่วยเป็นไข้เลือดออก คือ เรื่องการแต่งตัวของวัยรุ่น ซึ่งขณะนี้ฮิตใส่กางเกงขาสั้น ตามแฟชั่น เพราะมีพื้นที่ให้ยุงเลือกเจาะดูดเลือดได้ง่าย ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยง จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคน สวมเสื้อผ้ามิดชิดที่มีสีอ่อน ๆ
นอกจากนี้ ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า ในการควบคุมโรคไข้เลือดออก ได้เร่งให้สำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทุก 5 - 7 วัน เป็นการลดปริมาณยุงลายที่ดีที่สุด
ด้าน น.พ.อนุตรศักดิ์ รัชตะทัต ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค เผยว่า วิธีป้องกันยุงโดยการทายากันยุงนั้น จะต้องปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 4 ปี ต้องเลือกที่ไม่มีสารประกอบของดีอีอีที เนื่องจากสารดังกล่าว จะซึมเข้าผิวได้ง่าย อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

เคี้ยวมาก สุขภาพดี

การเคี้ยวอาหารมิเพียงเกี่ยวกับสุขภาพเท่านั้น ยังเกี่ยวพันกับสมรรถนะของสมองอย่างแนบแน่นด้วย เพราะการเคี้ยวมาก จะช่วยให้สมองปราดเปรียวขึ้น โดยการเคี้ยวอาหารจะกระตุ้นให้ต่อมน้ำลาย (salivary gland) และต่อมใต้หู (parotid gland) หลั่งฮอร์โมนออกมา ขณะเดียวกัน อาการเคี้ยวซึ่งทำให้ฟันบนกับฟันล่างกระทบกัน ก็จะกระตุ้นสมองใหญ่ด้วย การกระตุ้นนี้จะทำให้สมองใหญ่ปราดเปรียวยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มพลังแห่งการวินิจฉัย การขบคิดและสมาธิ ต่อไปนี้คือผลที่ได้จากการทดลองเกี่ยวกับจำนวนครั้งที่เคี้ยวอาหาร
การเคี้ยวอาหาร 30 ที ผลที่ได้จากการกินอาหารแต่ละคำ ควรเคี้ยวอย่างน้อยที่สุด 30 ที จะช่วยให้เหงือกแข็งแรง และช่วยรักษาอาการขี้หงุดหงิดจิตใจไม่สงบ การเคี้ยวอาหาร 50 ที จะช่วยลดการกลัดกลุ้มเจ้าอารมณ์ อย่างน้อยที่สุดช่วยให้ลืมเรื่องไม่น่าอภิรมย์ได้ในเวลากินอาหาร นอกจากนี้ ยังลดความอ้วนได้ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำที่เกินจำเป็นถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
การเคี้ยวอาหาร 100 ที ช่วยให้หนักแน่นมากขึ้น สามารถวินิจฉัยและจัดการปัญหาต่าง ๆ อย่างสงบเยือกเย็น กินน้อยแต่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มาก นอกจากนี้ยังช่วยลดการอยากอาหารประเภทเนื้อ หรือระคายต่อร่างกายได้ด้วย การเคี้ยวอาหาร 200 ที ถ้ายืนหยัดเคี้ยว 200 ที ต่ออาหาร 1 คำได้ทุกมื้อแล้ว จะหายจากโรคกระเพาะเรื้อรัง และโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลอย่างรวดเร็ว

บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู 2553 ปรับเพิ่ม เงินเดือนครู 8%

ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.โครงสร้างเงินเดือนใหม่ครู และบุคลากรทางการศึกษา ขยับขึ้น 8% ขั้นสูงระดับ 5 ดึงเพดานเป็น 66,480 บาท เทียบเท่าสายแพทย์ สายกฤษฎีกา แต่มีครูเพียง 2 คน จาก 4 แสนคนที่มีคุณสมบัติได้รับ เตรียมดัน กม.มีผลบังคับใช้ทัน เม.ย. ส่งผลให้ครูมีโอกาสปรับเงินเดือนเพิ่มเฉลี่ย 2,000-3,000 บาทต่อคน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินเดือน เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.... ซึ่งจะมีผลให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 432,942 คน มีโอกาสปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2,000-3,000 บาทต่อคน หรือประมาณ 8% แต่การปรับนั้นจะขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนของครูและบุคลากรทางการศึกษาแต่ละคน
รมว.ศธ.ชี้แจงว่า การที่ ศธ. เสนอร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนฯ ฉบับดังกล่าว เพราะต้องการปรับโครงสร้างเงินเดือนครูให้ใกล้เคียงกับบัญชีเงินเดือนข้าราชการพลเรือนประเภทอื่นที่ได้มีการปรับโครงสร้างเงินเดือนมา 2 ครั้งตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งโครงสร้างบัญชีเงินเดือน เงินเดือนขั้นสูง เงินเดือนขั้นต่ำของข้าราชการพลเรือนอื่น ๆ จึงสูงกว่าโครงสร้างเงินเดือนของครู เฉลี่ยประมาณ 8% ซึ่ง พ.ร.บ.เงินเดือนฯ ดังกล่าวมีการกำหนดให้ปรับโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตั้งแต่ คศ.1-5 และยังได้กำหนดให้เงินเดือนขั้นสูงสุดของ คศ. 5 อยู่ 66,480 บาท เทียบเท่ากับเงินเดือนขั้นสูงสุดของสายงานแพทย์ สายงานด้านกฎหมาย และสายงานกฤษฎีกา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกและไม่เคยปรากฏมาก่อน
"ความจริงแล้วที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติและบางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่เห็นด้วยให้กำหนดเงินเดือนขั้นสูงของ คศ.5 ที่ให้เงินเดือนสูงสุดอยู่ที่ 66,480 บาท ยกเว้นในส่วนของบัญชีเงินเดือนใหม่ที่ ศธ.เสนอเฉพาะแค่ คศ.1-4 นั้น เห็นด้วยว่าเหมาะสม แต่ในกรณี คศ. 5 ผมได้ชี้แจง ครม.ไปว่าสายงานครูเป็นสายงานพิเศษ เพราะกว่าที่ครูคนหนึ่งจะมาอยู่ในระดับ คศ.5 ได้นั้น ต้องทำผลงานวิชาการเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งในครูประจำการที่มีอยู่กว่า 4 แสนคน ศธ. มีครูที่ได้วิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น" รมว.ศธ. กล่าว
นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า ผลดีของการปรับโครงสร้างเงินเดือนครูให้เทียบเท่าเงินเดือนของสายงานประเภทอื่นจะทำให้เรามีโอกาสได้คนดี-คนเก่งมาเป็นครูมากขึ้น และหลังจาก ครม.ให้ความเห็นชอบแล้ว ตนจะเร่งดำเนินการให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ทันในสมัยประชุมนี้ เพื่อให้กฎหมายเสร็จสิ้นและมีผลประกาศบังคับใช้ก่อนเดือน เม.ย.2554 นอกจากนี้ ครม.ได้สั่งการให้ ศธ.เตรียมแผนงานระยะปานกลางและระยะยาว โดยระยะปานกลาง ให้มีการจัดทำระบบการพัฒนาค่าตอบแทนเงินเดือน เงินวิทยฐานะ เงินประจำตำแหน่งของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สอดคล้องกับรูปแบบการจัดการศึกษา ยุทธศาสตร์การจัดการศึกษา และสอดคล้องเทียบกับระดับสากล ส่วนแผนระยะยาวได้ให้ ศธ.ไปศึกษาภาพรวมของทั้งกระทรวง
สำหรับบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำ-ขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แนบท้ายร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.... นั้น กำหนดให้แท่ง ครูผู้ช่วย เริ่มขั้นต่ำที่ 8,700 บาท ขั้นสูง 16,840 บาท แท่ง คศ.1 ขั้นต่ำ 11,930 ขั้นสูง 29,700 คศ.2 ขั้นต่ำ 15,410 บาท ขั้นสูง 36,020 บาท คศ.3 ขั้นต่ำ 18,910 บาท ขั้นสูง 50,550 บาท คศ.4 ขั้นต่ำ 23,230 บาท ขั้นสูง 59,770บาท และ คศ.5 ขั้นต่ำ 28,550 บาท ขั้นสูง 66,480 บาท

วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

ทานอาหารตอนดึก ทำให้น้ำหนักขึ้นจริงหรือ?


เคยได้ยินบ่อยใช่ไหมล่ะ ว่า การทานอาหารตอนดึก ๆ หลังสามทุ่มไปแล้วน่ะ จะทำให้คุณอ้วนได้ ข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างไรกันแน่ มาหาคำตอบกันเลยค่ะ
จริง ๆ แล้วการทานอาหารดึก ๆ อาจจะทำให้คุณอ้วนได้ค่ะ แต่นั่นไม่ใช่เพราะระบบเผาผลาญพลังงาน หรือเมตาบอลิซึมของคุณช้าลงอย่างทันทีทันใดในตอนกลางคืน อย่างที่คนชอบเชื่อกันหรอกนะคะ
เพราะสาเหตุที่แท้จริงแล้ว ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารที่คุณทานตลอดทั้งวันมากกว่า ช่วงเวลาที่คุณทานอาหารอาจไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่ก็มีส่วนบ้างค่ะ นั่นคือ เนื่องจากคนเรามักจะกินอาหารตอนกลางคืน เพราะความเบื่อ และปัจจัยทางอารมณ์ คือ อยากกิน น่ากิน มากกว่ากินเพราะความหิว สุดท้ายแล้ว เราจึงได้รับแคลอรีมากเกินกว่าความต้องการในแต่ละวัน และแคลอรีส่วนเกินนั้น ก็ไปผลิออกดอกผลที่ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักของคุณ หรือแม้กระทั่งสะสมตามเอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน ฯลฯ ตามมานั่นเอง
นอกจากนี้ คนที่กินตอนกลางคืนยังมักตื่นขึ้นมาด้วยความไม่อยากอาหาร จึงทำให้งดอาหารเช้าซึ่งเป็นอาหารมื้อที่สำคัญที่สุดของแต่ละวันไป แต่หารู้ไม่ว่า มีการศึกษาวิจัยจำนวนมากพบว่า การทานอาหารเช้าจะสามารถช่วยควบคุมการกินของเราในตลอดทั้งวันได้ แต่เมื่อไม่หิว ไม่ยอมทานอาหารเช้า เราก็จะไปชดเชยด้วยการทานในปริมาณมากขึ้นในมื้อต่อ ๆ ไปนั่นเอง
แล้วนี่ล่ะค่ะ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเรามีน้ำหนักตัวมากขึ้นไปโดยปริยาย

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

ศธ.เตรียมเชือด ร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย


กรณีที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากร้านเหล้าปั่นและร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ รอบมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม เขตจตุจัตร ได้ร้องเรียนไปยัง นายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น

ล่า สุดเมื่อวันที่ 18 กันยายน นายไชยยศ กล่าวหลังจากลงตรวจพื้นที่ว่า คงต้องเร่งผลักดันอนุบัญญัติ เรื่องการควบคุมเหล้าปั่นและการควบคุมร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ในรัศมี 500 เมตร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมการนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ หากคณะกรรมการเห็นชอบ ก็จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามและมีผลบังคับใช้

ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือการนำกฎหมายที่มีอยู่บังคับใช้อย่างจริงจังและให้เกิด ประสิทธิภาพ เพราะแม้กฎหมายจะครอบคลุม แต่ก็ยังขาดเรื่องของการกำหนดพื้นที่ห้ามขายรอบสถานศึกษา ซึ่งหมายถึงการห้ามออกใบอนุญาตให้กับร้านที่อยู่ใกล้สถานศึกษาด้วย ขณะ เดียวกันยังมีร้านเหล้าอีกหลายแห่งที่นักศึกษาแต่งเครื่องแบบเข้าไปดื่ม เหล้า โดยที่ไม่สนใจว่าจะเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้น ผู้ปกครองและอาจารย์คงต้องช่วยสอดส่องและคอยตักเตือนบุตรหลานด้วย

ขณะ ที่ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสียงส่วนใหญ่ต้องการให้บังคับ ใช้มาตรการห้ามขายเหล้าปั่นและห้ามขายเหล้า รอบ ๆ สถานศึกษาเป็นจำนวนมาก และจากการออกตรวจร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา พบว่ายังมีการฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เยาวชน นิสิต นักเรียน นักศึกษา อย่างไรก็ตาม หากใครพบเห็นการทำผิดกฎหมาย สามารถโทรแจ้งได้ที่ 0-2590-3342 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

นิวซีแลนด์เจอพายุขนาดเท่า "ออสเตรเลีย" เล่นงาน


เอเอฟพี - นักอุตุนิยมวิทยาของนิวซีแลนด์ระบุ พายุลูกหนึ่ง ซึ่งมีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับประเทศออสเตรเลีย กำลังพัดกระหน่ำประเทศในวันนี้ (17) ทำให้ต้องมีประกาศเตือนภัยสภาพอากาศรุนแรงเกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
เจ้าหน้าที่เม็ตเซอร์วิสเผยว่า พายุซึ่งมีกำลังลมแรง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังถล่มหลายพื้นที่ของนิวซีแลนด์ รวมถึงกรุงเวลลิงตัน พร้อมด้วยฝนตกหนัก ฟ้าคะนอง และอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว
กรมอุตุฯ ของนิวซีแลนด์ระบุว่า กำลังลมแรงขนาดนี้สามารถยกหลังคา โค่นต้นไม้ใหญ่ และเสาไฟได้ ทั้งยังเป็นอันตรายต่อการขับขี่รถบนท้องถนนด้วย
ด้าน สำนักพยากรณ์อากาศของเอกชน weatherwatch.co.nz รายงานว่า พายุ ในมหาสมุทรใต้ ลูกนี้ เป็น 1 ในพายุที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน โดยมีขนาดคร่าวๆ เทียบเท่าได้กับประเทศออสเตรเลียเลยทีเดียว
ฟิลิป ดันแคน นักวิเคราะห์ของเวเธอร์วอตช์ชี้ว่า ขณะที่ศูนย์กลางพายุน่าจะอยู่ห่างจากนิวซีแลนด์ไปทางตะวันตกประมาณ 1,000 กิโลเมตร แต่ในประเทศอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศรุนแรงเป็นเวลานาน 3-4 วัน
ดันแคนยังเสริมว่า ลมพายุอาจจะพัดกระหน่ำประเทศอย่างกะทันหันและไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยเมืองไครต์เชิร์ช ซึ่งประสบภัยแผ่นดินไหวระดับ 7.0 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน อาจเจอกระแสลมแรง แต่สภาพอากาศไม่น่าจะเลวร้ายมากนัก

ราชบุรีเฮ ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณกว่า 2,000 ปี

วันที่ 17 ก.ย. ที่ จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่จากศิลปากรที่ 1 จังหวัดราชบุรี ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์จํานวนมาก เศษภาชนะ ลูกปัด กําไล เศษกระเบื้อง เครื่องปั้นดินเผา ก้ามปูฟอสซิล อายุราว 2,000 ปี ที่บริเวณคันดินบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกรามและสถานที่ทิ้งขยะของเทศบาลตําบลโพหัก บ้านโคกพลับ หมู่ที่ 2 ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี
สภาพโครงกระดูกที่ค้นพบนอนวางทับถมกันจํานวนหลายโครง ลึกจากพื้นดินประมาณ 3 เมตรเศษ โดยเจ้าหน้าที่พยายามขุดอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้โครงกระดูกที่พบเกิดการเสียหายมากนัก
นางสาวปรียานุช จุมพรม นักโบราณคดีชํานาญการกรมศิลปากร กล่าวว่า สถานดังกล่าวได้สํารวจพบมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 พบโบราณวัตถุเป็นกําไล 6 แฉก เครื่องปั่นดินเผา ส่วนหนึ่งที่เคยขุดพบได้เก็บรักษาไว้ที่วัดใหญ่โพหักและพิพิธภัทฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบเป็นของใช้คนยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมาไม่ได้มีการดําเนินการใดๆ กับพื้นที่ดังกล่าวที่มีอยู่ประมาณ 9 ไร่เศษ จนทางเทศบาลตําบลโพหัก ใช้พื้นที่เป็นที่ทิ้งขยะทําให้สภาพพื้นที่เต็มได้ด้วยกองขยะกองใหญ่ ต่อมาชาวบ้านเรียนร้องให้มีการฟื้นฟูด้านวัฒนธรรมและแหล่งโบราณคดีของตําบลโพหัก กรมศิลป์ได้สนับสนุนงบประมาณ 2 แสนบาทมาดําเนินการขุดสํารวจจนพบโครงกระดูกดังกล่าว
ด้านนายนิคม นักคุ่ย กํานันตําบลโพหัก กล่าวว่าอยากให้หน่วยงานทีเกี่ยวข้องของจังหวัดเข้มาตรวจสอบดูแลและเคยได้แจ้งให้เทศบาลตําบลโพหักขนย้ายขยะออกนอกพื้นที่เพื่อจะได้ทําการขุดวัตถุโบราณเพื่อเตรียมทําเป็นแหล่งโบราณคดีของชาวโพหักต่อไป

นักวิจัยเผยนั่งทำงานติดหน้าต่างเสี่ยงแก่ลง 10 ปี

หนุ่มสาววัยทำงานที่นั่งทำงานติดกับหน้าต่าง อาจจะรู้สึกดีที่ได้มองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อพักสายตาจากการทำงานที่ต้องจับจ้องอยู่กับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน หรือที่มากไปกว่านั้น การมองออกไปนอกหน้าต่าง อาจทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อุดอู้อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า แม้ว่าการนั่งทำงานติดกับหน้าต่างจะทำให้คุณรู้สึกสบายตามากแค่ไหน แต่คุณจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า มากกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นและแน่นอน การนั่งทำงานติดกับหน้าต่างไปนาน ๆ จะทำให้คุณดูแก่กว่าเพื่อนร่วมงานถึง 10 ปีโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียวล่ะ จากการศึกษาของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบอซองซง ประเทศฝรั่งเศส พบว่า แสงแดดมีผลกระทบโดยตรงที่จะทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอย โดยเฉพาะรังสียูวีเอ ที่ไม่สามารถป้องกันได้ด้วยหมวกหรือแว่นกันแดดนั้น ยิ่งเป็นอันตรายต่อผิวอย่างมาก ซึ่งหากคุณนั่งทำงานติดกับหน้าต่าง รังสียูวีเอจะส่องผ่านเข้ามาและค่อย ๆ ทำลายผิวหนังของคุณ และมันก็ทำให้ผิวเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย มากกว่าพนักงานที่นั่งในตำแหน่งอื่นถึง 300 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่หนุ่มสาวที่นั่งทำงานติดหน้าต่างเท่านั้น แต่ผู้ที่ต้องนั่งอยู่ในรถเป็นเวลานานขณะเดินทางมาทำงานก็เช่นกัน เพราะผิวจะสัมผัสกับยูวีเอได้ง่ายและสะสมในแต่ละวัน เผลอ ๆ ยังได้รับยูวีเอในปริมาณมากกว่าผู้ที่นั่งทำงานติดหน้าต่างเสียอีก
ทั้งนี้ ทีมวิจัยยังกล่าวสรุปว่า อายุของผิวนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณรังสียูวีเอที่ได้รับสะสมในแต่ละวัน ยิ่งเราสัมผัสกับแสงแดดแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้แก่ลงเร็วมากเท่านั้น โดยเฉพาะในฤดูร้อน จะสังเกตได้ว่าผิวจะคล้ำเสียได้มากกว่าฤดูอื่น ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องและยืดอายุผิว ควรทาครีมกันแดดป้องกันไว้ตลอดวัน หรือหากเป็นไปได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการนั่งทำงานติดหน้าต่าง หรือการเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ จะดีที่สุด

ดื่มกาแฟกระเพาะปัสสาวะแย่


กาแฟ" กลายเป็น เครื่องดื่มจำเป็นที่คนทำงานขาดไม่ได้ซะแล้ว แต่ไม่นานมานี้มีผลสำรวจพบว่า การดื่มกาแฟ 4-6 แก้วต่อวัน จะส่งผลเสียต่อกระเพาะปัสสาวะ เนื่องจากกระเพาะปัสสาวะต้องทำงานหนักจากเดิมเป็น 2 เท่า เพราะสารคาเฟอีนในกาแฟจะไปกระตุ้นการผลิตปัสสาวะในไต และกระตุ้นให้กระเพาะปัสสาวะเกิดการหดตัว เป็นสาเหตุให้คุณ ๆ ที่ชอบดื่มกาแฟต้องเข้าห้องน้ำอยู่บ่อย ๆ รู้อย่างนี้แล้ว..ลดเหลือแค่วันละ 2 แก้ว จะดีกว่านะคะ

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

กทช. ยื่นอุทธรณ์ระงับประมูล 3 จี ต่อศาลปกครองสูงสุดแล้ว

ศาลสั่งคุ้มครอง ชั่วคราว ประมูล 3 จี กรณี กสท.ฟ้อง กทช. ไม่มีอำนาจเปิดประมูลตามรัฐธรรมนูญ ด้าน ทีโอที เอาด้วย ยื่นฟ้อง กทช.อีกรายวันนี้
เมื่อวันที่ 16 ก.ย.53 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวการประมูลใบอนุญาต 3 จี กรณี บริษัท กสท โทรคมนาคม ได้ยื่นฟ้อง กทช. เหตุไม่มีอำนาจเปิดประมูลตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากมีคำสั่งดังกล่าว จะมีผลทำให้การจัดประมูล 3 จี ต้องยุติลงในทันที โดย ทาง กทช.เตรียมเข้ายื่นอุทธรรณ์ต่อศาลปกครองในวันนี้ (17 ก.ย.) และหากศาลรับคำยื่นอุทธรณ์ ก็จะสามารถเดินหน้าโครงการประมูลใบอนุญาต 3 จี ได้ต่อไป
ทั้งนี้ พ.อ. ดร.นที ศุกลรัตน์ กรรมการ กทช. กล่าวว่า กทช.กำลังต่อสู้เพื่อประโยชน์ของสาธารณะและคนไทย เพื่อให้ได้รับบริการใหม่ แต่คนฟ้องหรือ กสท.ทำเพื่อปกป้องประโยขน์องค์กร โดยวันนี้ กทช.จะมีการหารือกัน หลังจากศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแจ้งระงับประมูล 3จี แต่ก็ต้องเคารพคำสั่งศาล หากถึงเวลาประมูลแล้วศาลยังไม่มีคำสั่งเป็นอื่น
ด้าน นางศริญญา ไชยประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยทีมงานฝ่ายกฎหมาย ก็ได้เดินทางมายื่นหนังสือคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เพิกถอนประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G เนื่อง จากเห็นว่า กทช. ไม่มีอำนาจ เพราะต้องรอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ หรือ กสทช. ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่ยังไม่เกิดขึ้น
โดย ทีโอที ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะขัดขวางการเปิดประมูล 3G เพียงแต่เห็นว่ากระบวนการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหากดำเนินการต่อไป จะเกิดผลเสียต่อทีโอทีหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งทาง ทีโอที มั่นใจว่า คดีความจะออกมาในลักษณะเดียวกับที่ บริษัท กสท โทรคมนาคม ได้ยื่นฟ้อง เนื่องจากเป็นการฟ้องในลักษณะเดียวกัน
ล่า สุดวันนี้ (17 ก.ย.) พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการคณะกรรมการเพื่อการอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G พร้อมทีมกฎหมาย ได้เดินทางไปเข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดขออุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองชั้น ต้น กรณีระงับประมูล 3G เพื่อขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งกำหนดมาตรการ และวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ก่อนพิพากษาและขอไต่สวนฉุกเฉินต่อศาลปกครองสูงสุด
โดย พ.อ.นที ระบุว่าการอุทธรณ์ของกทช. เป็นการชี้แจงให้ศาลเห็นว่าการดำเนินการของกทช. เป็นไปเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน ขณะที่คำฟ้องของ กสท โทรคมนาคม เป็นการดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ขององค์กร อย่างไรก็ตามขั้นตอนต่อจากนี้ จะต้องรอคำสั่งศาลว่าจะรับคำอุทธรณ์หรือไม่

หลากคำถามเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

กลับมาระบาดอีกครั้งสำหรับโรคไข้ หวัดใหญ่ 2009 ซึ่ง ณ วันนี้กลายเป็นหนึ่งในโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลไปแล้ว และล่าสุด มีผู้ป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข จึงได้เร่งรณรงค์ให้ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงทั้ง 7 กลุ่ม เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2010 ฟรี ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ตุลาคม 2553 ที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยวัคซีน 1 เข็ม ครอบคลุมโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้หวัดใหญ่ชนิด B และไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ H3N2 (ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล) วันนี้กระปุกดอทคอม จึงมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2010 มาบอกกันค่ะ
ใครคือบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ควรฉีดวัคซีน
1. หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์มากกว่า 7 เดือนขึ้นไป
2. คนอ้วนน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมขึ้นไป
3. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
4. บุคคลอายุ 6 เดือนขึ้นไปที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้น หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งอยู่ระหว่างได้รับเคมีบำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันผิดปกติ
5. ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
6. เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี
7. บุคลากรสาธารณสุขและผู้มีหน้าที่กำจัดซากสัตว์ปีก

ทั้งนี้ สำหรับบุคคลที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง สามารถติดต่อสอบถามไปยังโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ทั้งของรัฐบาลและเอกชนที่ให้บริการ เพื่อขอฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อวัคซีน 1 เข็มแตกต่างกันตามแต่ละโรงพยาบาล
ข้อห้ามในการฉีดวัคซีน

ผู้ที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ คือ
ผู้ที่มีอาการแพ้ไข่ หรือโปรตีนจากไก่ หรือไข่
ผู้ที่เคยแพ้ส่วนประกอบของวัคซีน
ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรง
เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน
ผู้ที่กำลังมีไข้ หรือมีการติดเชื้ออย่างเฉียบพลัน
ผู้ที่มีอาการโรคประจำตัวกำเริบ ไม่สามารถควบคุมได้

แต่หากเป็นหวัดเล็กน้อย และไม่มีไข้ สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้
ช่วงเวลาที่เหมาะในการฉีดวัคซีน

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ คือ ช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงก่อนฤดูผล ก่อนเกิดการระบาดของโรค และช่วงก่อนฤดูหนาวในเดือนตุลาคม โดยวัคซีนนี้ต้องฉีดซ้ำทุก 1 ปี เนื่องจากแต่ละปีเชื่อไวรัสจะมีการกลายพันธุ์ จึงต้องมีการผลิตวัคซีนขึ้นมาใหม่ทุก ๆ ปี

วัคซีนสามารถป้องกันได้เมื่อไหร่

หลังจากฉีดวัคซีนแล้ว จะต้องใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้หวัดใหญ่ชนิด B และไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ H3N2 (ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล) แต่วัคซีนนี้ไม่สามารถป้องกันไข้หวัดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ อื่น ๆ หรือโรคหวัดทั่วไปได้
อาการหลังฉีดวัคซีน

ผู้ที่ฉีดวัคซีนบางคนอาจมีอาการบวมแดง ปวด เป็นตุ่มนูนบริเวณที่ฉีด บางคนอาจเป็นไข้ มีอาการปวดเมื่อยตามมา แต่จะหายได้เองภายใน 1-2 วัน แต่หากใครเกิดอาการหายใจไม่สะดวก เสียงแหบ หายใจเสียงดัง เกิดลมพิษ หน้าซีดขาว อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว หรือเวียนศีรษะ ให้รีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาจแพ้วัคซีนดังกล่าว
หากเคยฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 มาก่อน จะฉีดวัคซีนตัวนี้ได้อีกหรือไม่

สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ได้อีก เนื่องจากเมื่อฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไปแล้ว ร่างกายจะมีภูมิต้านทานอยู่ได้ประมาณ 6 - 12 เดือน หากฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์เข้าไปอีก จะช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย

นักวิทย์เผยอีก 7 ปี ภาคกลางจมใต้น้ำ

อดีต นักวิทยาศาสตร์องค์การนาซ่า ระบุ โลกร้อนส่งผลกระทบ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในอีก 7 ปีข้างหน้า ภาคกลางของประเทศไทย จะจมอยู่ใต้น้ำ
ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า และผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะโลกร้อนระบุ ภาวะโลกร้อน จะส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก ในอีก 7 ปีข้างหน้า โดยบรรยายเรื่องโลกร้อน ผลกระทบชาวเชียงใหม่ ที่โรงเรียนพายัพเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ
พร้อมกันนี้ ดร.อาจอง ยังกล่าวว่า ปัญหาโลกร้อน ทำให้ปริมาณน้ำแข็งละลาย และไหลลงสู่ทะเลและมหาสมุทร และส่งผลให้แกนขั้วโลก มีการเปลี่ยนแปลงและเปลือกโลกเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น ทำให้หลายประเทศ รวมถึงภาคกลางของประเทศไทย จมอยู่ใต้น้ำจะเกิดสึนามิทางอ่าวไทย ที่ไม่เคยเกิดขึ้น ขณะที่ภาคเหนือของไทย จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง และบ่อยครั้งมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลก แต่ความรุนแรงอาจไม่เกิน 6 ริกเตอร์ ซึ่งต้องการลดภาวะโลกร้อน ต้องหันมาช่วยเหลือกันมากขึ้น ลดการบริโภคนิยม และหันมาใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เพื่อลดการใช้ทรัพยากรที่ฟุ่มเฟือย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโลกในที่สุด

พายุทอร์นาโด ถล่มนิวยอร์ค เฉียดฉิวเทพีเสรีภาพ




พายุทอร์นาโด พัดเข้าถล่มเมืองบรู๊คลิน ในมหานครนิวยอร์ค พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย โดยรัศมีของพายุอยู่ห่างเทพีเสรีภาพเพียงแค่เอื้อม
หลังจากทางการสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนให้ระวังพายุทอร์นาโดได้เพียงไม่นาน ชาวเมืองบรู๊คลิน ในมหานครนิวยอร์ค ก็ต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโดลูกใหญ่ ดำทะมึนพัดผ่านเข้าย่านบรู๊คลิน และควีนส์ ดังคำเตือน
โดยผลกระทบในครั้งนี้ ทำให้บ้านเรือนในย่าน ควีนส์ นิวเจอร์ซีย์ และเกาะสเตตัน หลายหมื่นครัวเรือน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และที่สำคัญมีผู้เสียชีวิตจากพายุทอร์นาโดในครั้งนี้ 1 ราย
นอก จากนี้ ยังมีผู้คนตื่นตระหนกและโทรรายงานเหตุฉุกเฉินดังกล่าว ราว 500 ราย ในเวลา 2 ชั่วโมง ขณะที่สถานีรถไฟในลองไอส์แลนด์ ต้องระงับการใช้บริการจากสถานีเพนน์ ไปยัง จาไมก้า ส่วนบริการสำหรับผู้โดยสารขาออกในสนามบินเจเอฟเค ก็ต้องล่าช้าไปอีก 2-3 ชั่วโมง ด้วย
ทั้งนี้ ประชาชนในย่านนั้นจำนวนมาก เผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดพายุทอร์นาโดขึ้นนั้น ท้องฟ้าได้เปลี่ยนสีกลายเป็นสีเขียว จากนั้นก็มีลูกเห็บตกลงมาพร้อม ๆ กับสายฝน จนก่อตัวเป็นพายุทอร์นาโดและสร้างความเดือดร้อนดังกล่าว
อย่าง ไรก็ตาม มีผู้ที่สามารถจับภาพพายุทอร์นาโดดังกล่าวไว้ได้ และพบว่าพายุทอร์นาโดนั้นพัดเฉียดเทพีเสรีภาพ สัญลักษณ์แห่งมหานครนิวยอร์ค ไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น และนับว่าเป็นการพัดผ่านของพายุทอร์นาโดที่เข้าใกล้เทพีเสรีภาพมากที่สุด สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้คนในเมืองอันศิวิไลซ์แห่งนี้เป็นอย่างมาก

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

เขมรเล็งซื้อรถถัง-ยานยนต์หุ้มเกราะเพิ่ม


กัมพูชา เตรียมซื้อยุทโธปกรณ์ เสริมความแข็งแกร่งกองทัพ หลังข้อพิพาทชายแดนกับไทยยังร้อนระอุ บอกไม่ต้องการรุกรานใคร แต่เพียงเพื่อป้องกันประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศ อ้างการเผยแพร่ข้อมูล ของหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชา ที่รายงานว่า รถถังใหม่ รุ่น T55 และ ยานยนต์หุ้มเกราะ อีก 44 คัน ซึ่งสั่งเข้ามาจากยุโรปตะวันออก และมีกำหนดมาถึงประเทศกัมพูชา ในสัปดาห์หน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่กองทัพกัมพูชาปฏิเสธ ที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า กัมพูชาได้จัดซื้อรถถัง และยานยนต์ดังกล่าวจริง ซึ่งจะถูกจัดส่งสินค้ามาทางเรือ และจะมาถึงในไม่ช้านี้ โดยจะเทียบท่าที่จังหวัดสีหนุวิลล์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากกรุงพนมเปญ ราว 230 กิโลเมตร ซึ่งจำนวนทั้งหมดจะมีมากกว่า 94 คัน
นอกจากนี้ นายกอย เกือง ยังกล่าวว่า กัมพูชา ไม่ได้ต้องการที่จะคุกคามใคร แม้ว่าจะมีปัญหาขัดแย้งตามแนวชายแดนกับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตไปแล้วหลายนาย แต่การเสริมยุทโธปกรณ์ของกัมพูชาในครั้งนี้ ก็เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ทางการทหารของกัมพูชา เพื่อความสมบูรณ์ของประเทศ และเพื่อป้องกันการรุกราน จากประเทศอื่นโดยเจตนา อย่างไรก็ดี นายกอย เกือง ไม่ได้เปิดเผยถึงมูลค่าการสั่งซื้อ และสถานที่มาของยุทโธปกรณ์เหล่านั้น

คนไทยเจ๋ง กำจัดลูกน้ำไร้สารพิษ!

นักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีประดิษฐ์เครื่องกำจัดลูกน้ำเครื่องแรกของประเทศ ยันได้ผลแน่นอน 100% สามารถตัดวงจรขยายพันธุ์ยุงลาย ลดการระบาดของโรคไข้เลือดออกที่อาคารเรียนรวม 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ต.สุรนารี อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา วันที่ 15 กันยายนนี้ มีการแถลงถึงความสำเร็จของนักวิจัย มทส.ในการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องกำจัดลูกน้ำยุงโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเครื่องดังกล่าวลักษณะคล้ายไม้เท้า ทำหน้าที่ปล่อยคลื่นอัลตราโซนิก ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูง จุ่มลงในน้ำ ช่วยตัดวงจรชีวิตลูกน้ำ กำจัดยุงลายสาเหตุของโรคไข้เลือดออก ซึ่งกำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ สามารถกำจัดได้ตั้งแต่ไข่ ลูกน้ำ และตัวโม่ง ทั้งยังมีความปลอดภัยต่อการใช้งาน ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม ต้นทุนต่ำผศ.ดร.ชาญชัย ทองโสภา อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มทส. หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า เครื่องกำจัดลูกน้ำดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการกำจัดยุงลายได้ผล 100% แต่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ภายในแหล่งน้ำ ซึ่งการวิจัยดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจากกองทุนนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 3 แสนบาท โดยเริ่มต้นทำการวิจัยและประดิษฐ์อุปกรณ์กำจัดลูกน้ำด้วยคลื่นอัลตราโซนิก ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2553 หลังจากประสบผลสำเร็จก็ได้ผลิตเครื่องกำจัดลูกน้ำจำนวน 4 เครื่อง แจกจ่ายไปยังพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ และภายในปีนี้จะเร่งผลิตอีก 300 เครื่อง เพื่อแจกจ่ายให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครราชสีมา และจะขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ เพื่อลดอัตราการระบาดของโรคไข้เลือดออก "จากการลองผิดลองถูกมากว่า 5 เดือน จึงได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกำลังความถี่ที่เหมาะสมในการกำจัดลูกน้ำยุงโดยเฉพาะ และได้ผลการกำจัดเต็มประสิทธิภาพ 100% อุปกรณ์ดังกล่าวพัฒนาขึ้นโดยดัดแปลงจากไม้เท้าผู้สูงอายุ ติดตั้งเครื่องปล่อยคลื่นเสียงย่านอัลตราโซนิกไว้บริเวณส่วนปลายของไม้เท้า คลื่นเสียงนี้มีประสิทธิภาพสูงในการทำลายลูกน้ำ เพียงจุ่มปลายไม้เท้าลงในน้ำที่มีลูกน้ำยุงอาศัยอยู่แล้วเปิดเครื่อง จากการทดสอบพบว่าคลื่นเสียงดังกล่าวสามารถกำจัดลูกน้ำภายในเวลาเพียง 1 วินาที รัศมีการกระจายตัวของคลื่นไปได้ไกลประมาณ 1 ฟุต หากต้องการกำจัดลูกน้ำจำนวนมากก็เปลี่ยนจุดจุ่มไปเรื่อย ๆ ผู้ใช้สามารถปรับความถี่ได้ระหว่าง 20-100 กิโลเฮิรตซ์ และปรับความแรงของคลื่นเสียงได้ระหว่าง 100 - 400 วัตต์ ความถี่และความแรงดังกล่าวไม่มีผลต่อสัตว์น้ำอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าลูกน้ำ" ผศ.ดร.ชาญชัยกล่าว สำหรับต้นทุนสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้อยู่ที่ประมาณเครื่องละ 4,000-5,000 บาท ซึ่ง ดร.ชาญชัยกล่าวว่า ราคาเชิงพาณิชย์ที่มีการผลิตระดับอุตสาหกรรมจะต่ำกว่านี้มาก ทั้งยังสามารถดัดแปลงเพื่อเพิ่มคลื่นความถี่ให้แรงขึ้นสำหรับกำจัดสัตว์น้ำชนิดอื่นได้เช่นกัน ทั้งยังเป็นนวัตกรรมกำจัดยุงด้วยคลื่นเสียงเครื่องแรกของโลก ซึ่งขณะนี้ได้จดสิทธิบัตรในนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะส่งต่อความรู้ให้แก่ภาคอุตสาหกรรม หรือหน่วยงานภาครัฐที่สนใจนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ส่วนประกอบของเครื่องกำจัดลูกน้ำยุงจะมี 4 ส่วนหลัก คือ
1.ต้นกำเนิดพลังงาน ที่ใช้เป็นแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์
2.ชุดแปลงกระแสไฟฟ้าเป็นกระแสไฟฟ้าสลับขนาด 220 โวลต์
3.วงจรกำเนิดคลื่นความถี่สูงย่านอัลตราโซนิก
4.หัวพรีโซ่อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะใช้เป็นตัวปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงอัลตราโซนิกออกไปกำจัดลูกน้ำ

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

สกอ.เผยชื่อสถาบัน สภาวิชาชีพรับรอง


รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า สถาบันของสภาวิชาชีพที่ได้รับการรับรองและยังไม่รับรอง ซึ่งหากปรับปรุงคุณภาพก็อาจจะได้รับการรับรองมีดังนี้
สภาทันตแพทย์ รับรองครั้งละ 5 ปี และไม่รับรองเป็นรายปี มี 9 สถาบันที่รับรองอย่างไม่มีเงื่อนไข ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.มหิดล, ม.เชียงใหม่ (มช.), ม.ขอนแก่น (มข), ม.สงขลานครินทร์ (มอ.), ม.ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว), ม.นเรศวร (มน.), ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) และ ม.รังสิต
สถาบันที่ยังไม่ได้รับการรับรองมี 1 แห่ง ได้แก่ ม.เวสเทิร์น สภาเภสัชกรรมมีระยะเวลาในการรับรอง 1 ปี สถาบันที่รับรองอย่างไม่มีเงื่อนไข 13 แห่ง ได้แก่ จุฬาฯ, ม.ขอนแก่น (มข.), ม.เชียงใหม่ (มช.), ม.นเรศวร (มน.), ม.มหาสารคาม, ม.มหิดล, ม.ศรีนครินทริโรฒ (มศว), ม.ศิลปากร (มศ.), ม.สงขลานคริทร์ (มอ.), ม.อุบลราชธานี, ม.รังสิต, ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, ม.สยาม สถาบันที่ยังไม่ได้รับรอง 3 แห่ง ได้แก่ ม.วลัยลักษณ์, ม.พายัพ และ ม.อีสเทิร์นเอเชีย
สภากายภาพบำบัดซึ่งรับรองคณะ/สาขาวิชากายภาพบำบัด โดยมีเงื่อนไขในการรับรองครั้งละ 5 ปี ไม่รับรองเป็นรายปี มี 13 สถาบันรับรองอย่างไม่มีเงื่อนไข ได้แก่ จุฬาฯ, มธ., ม.มหิดล, มศว, มช., มข., มน., มอ., ม.วลัยลักษณ์, ม.แม่ฟ้าหลวง, ม.หัวเฉียวฯ, ม.รังสิต และ ม.คริสเตียน ส่วนสถาบันที่ยังไม่ได้รับรอง 4 แห่งได้แก่ มน. วิทยาเขตพะเยา, ว.นครราชสีมา, ว.เซนต์หลุยส์ และ ม.บูรพา
ขณะที่สภาเทคนิคการแพทย์รับรองคณะ/สาขาเทคนิคการแพทย์ โดยมีเงื่อนไขในการรับรองเป็นรายปีจนกว่าจะมีบัณฑิตสำเร็จการศึกษารับรอง 5 ปี มี 9 สถาบันที่รับรองอย่างไม่มีเงื่อนไข ได้แก่ จุฬาฯ, มธ., ม.มหิดล, มช., มข., มน. วิทยาเขตพิษณุโลก, ม.วลัยลักษณ์, ม.รังสิต และ ม.หัวเฉียวฯ ส่วนสถาบันที่ยังไม่ได้รับรอง 6 แห่ง ได้แก่ มน. วิทยาเขตพะเยา, ม.บูรพา, มอ., ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, ม.เวสเทิร์น และ ว.นครราชสีมา สภาวิชาชีพสัตวแพทยสภารับรองคณะ/สาขาสัตวแพทย์ โดยมีเงื่อนไขให้รับรองครั้งละ 5 ปี ไม่รับรองเป็นรายปี มี 6 สถาบันรับรองอย่างไม่มีเงื่อนไข ได้แก่ จุฬาฯ, ม.เกษตรศาสตร์ (มก.), มข., มช., ม.มหิดล และ ม.เทคโนโลยีมหานคร ส่วนสถาบันที่ยังไม่มีรับรอง 4 แห่ง ได้แก่ ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย, ม.เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก, ม.เวสเทิร์น และ ม.มหาสารคาม

สภาครุฯ ชี้ อุดมศึกษาตั้งเกณฑ์วิชาชีพครูผิด


สภาคณบดีครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ฯ ลงมติ ให้ทบทวนเกณฑ์มาตรฐานของผู้ศึกษาวิชาชีพครู เผยตั้งหลักเกณฑ์ผิด

นาย สมบัติ นพรัก ประธานสภาคณบดี คณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย แถลงข่าวเปิดเผยถึงการประชุมของสภาคณบดีฯ ว่า ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์ของคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในร่างกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF) หลักสูตร 5 ปี ของคณะครุศาสตร์ และ คณะศึกษาศาสตร์ โดยแบ่งออกเป็นประเด็นดังนี้

1. ไม่เห็นด้วย กับประเด็นที่ทางคณะกรรมการการอุดมศึกษา กำหนดให้ผู้ศึกษาใน 2 คณะดังกล่าว ต้องเรียนวิชาเอก 80% ถือว่ามากเกินไป ยกตัวอย่างประเทศฟินแลนด์ จะเรียนวิชาเอก และ วิชาสายครุศาสตร์ อย่างละ 50%

2. ไม่เห็นด้วย กับคณะกรรมการการอุดมศึกษา ที่มีมติให้ทางคณะสอนนักศึกษาได้แต่สายวิชาชีพครูเท่านั้น ส่วนวิชาสายหลักอื่น ๆ จะให้อาจารย์จากคณะอื่นเป็นผู้สอน เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ จะให้อาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ เป็นผู้สอน

3. ไม่เห็นด้วย กับแนวคิดว่าทุกคณะจะสามารถผลิตครูได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นคณะศึกษาศาสตร์ และ ครุศาสตร์ เพราะวิชาชีพครูชั้นสูงต้องใช้เวลาในการหล่อหลอมโดยเฉพาะ ไม่ใช่เพียงจบมาก็จะเป็นครูได้

ทั้ง นี้ นายสมบัติ ยังกล่าวอีกว่า ร่างกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับการศึกษาแห่งชาติ (TQF) นั้น ยังขาดการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่มีส่วนในการกำหนดกฎเกณ์ต่าง ๆ มีเพียงร่วมแสดงความเห็นประชาพิจารณ์เท่านั้น

ไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดหนักทุกภาค – ภาคกลางหนักสุด


เมื่อวานนี้ (11 กันยายน) นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ (เอช1 เอ็น1) หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่าได้รับรายงานสถานการณ์ล่าสุดจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงวันที่ 6 กันยายน 2553 มีผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่ 2009 กว่า 9,000 ราย และมีแนวโน้มป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงนี้

จากการที่กรมควบคุมโรคใช้หลักการในการเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยที่มีอาการคล้าย ไข้หวัดใหญ่ ที่มารับการรักษาตามโรงพยาบาลในจังหวัดต่าง ๆ พบว่า ขณะนี้มีประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่มีประมาณร้อยละ 7 - 8 นอกจากนี้ ได้สุ่มตรวจผู้ป่วยโรนิวมอเนียหรือปอดบวม พบว่าร้อยละ 20 มีอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7 - 8 ในช่วงต้นปีเช่นเดียวกัน

สำหรับภาพรวมขณะนี้ สำนักระบาดวิทยาได้รับ แจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต โรงพยาบาล สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สรุปสถานการณ์ ดังนี้ สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ และสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (เอช3), บี และไข้หวัดใหญ่ธรรมดา (เอช1 เอ็น1) ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ 2009 พบรวมกันถึง 27 จังหวัด คือ ภาคกลางพบ 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ ลพบุรี สระแก้ว สิงห์บุรี ปราจีนบุรี ระยอง สุพรรณบุรี ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี สุโขทัย พะเยา นครสวรรค์ และเชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี และนครราชสีมา และภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี และสงขลา

ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยกระจายในอำเภอมากกว่าร้อยละ 50 จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และนครปฐม ผู้ป่วยยืนยันเสียชีวิตตั้งแต่ 28 เมษายน 2552 จำนวน 254 ราย ในรอบสัปดาห์นี้ ได้รับรายงานผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ได้แก่ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดนนทบุรี

ญี่ปุ่นอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ มีอุณหภูมิสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส เสียชีวิตไปกว่า 170 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในวันนี้รัฐบาลญี่ปุ่น ได้มีการเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิต จากภาวะอากาศร้อนจัดถึง 170 ราย และมีอีกกว่า 54,000 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาล เพราะอากาศที่ร้อนจัด

ขณะที่หน่วยงานป้องกันอัคคีภัยและภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม - 12 กันยายน ที่ผ่านมา มีประชาชน 54,386 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อายุเกิน 65 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นลมแดด และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ในฤดูร้อนปีนี้ ญี่ปุ่นประสบกับอากาศร้อนจัดที่สุดตั้งแต่ปี 1898 เป็นต้นมา โดยอุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ทั่วประเทศ เมื่อเดือนสิงหาคม


ฮือฮา! ยูเอฟโอโผล่อีกรอบ ใกล้สนามบินในจีน


เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ไชน่าเดลี่ของจีนได้รายงานว่า สนามบินเบ๋าตู ในเขตมองโกเลียใน ทางตอนเหนือของประเทศจีน ต้องปิดให้บริการนานกว่า 1 ชั่วโมง ในคืนวันที่ 11 กันยายน เวลาประมาณ 20.30 น. หลัง จากเรดาร์ของหอบังคับการบินได้ตรวจพบวัตถุบินได้ที่ไม่อาจระบุตัวตน หรือ UFO ลอยขวางน่านฟ้า ทำให้เครื่องบิน 3 ลำไม่สามารถลงจอดในสนามบินได้
โดยเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน สนามบินเบ๋าตู ได้เปิดเผยว่า เรดาร์ได้ตรวจพบวัตถุประหลาดดังกล่าว แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งปิดสนามบินและระงับการลงจอดของเครื่องบิน 3 ลำที่กำลังจะลงจอด แล้วให้ไปลงจอดที่สนามบินอื่นที่อยู่ใกล้เคียงแทน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน เพราะทางสนามบินเองไม่รู้ว่า วัตถุดังกล่าวจะเคลื่อนที่ชนเครื่องบินหรือไม่ จึงทำให้สนามบินเบ๋าตูต้องปิดบริการนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดให้บริการตามปกติในเวลาประมาณ 22.00 น. เมื่อตรวจสอบพบว่าวัตถุประหลาดดังกล่าวได้เคลื่อนที่หายไปแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความฮือฮาให้กับเจ้าหน้าที่ในสนามบินและผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น เป็นอย่างยิ่ง และต่างพูดไปในทำนองเดียวกันว่า วัตถุ ที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้านั้นเป็น UFO เพราะเคลื่อนที่ในแบบเดียวกันกับวัตถุประหลาดที่เคยปรากฏบนท้องฟ้าบริเวณ สนามบินในเมืองหางโจว เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินได้ออกมาระบุว่า วัตถุดังกล่าวอาจไม่ใช่ UFO อย่างที่ใคร ๆ เชื่อกันก็ได้ แต่อาจะเป็นเพียงแค่เครื่องบินรบของกองทัพจีนที่ฝึกบินอยู่ในพื้นที่บริเวณ ดังกล่าวเท่านั้น

วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

นักวิทย์ค้นพบหลุมดำชนิดใหม่


นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหลุมดำชนิดใหม่ด้วยการใช้กล้องวีแอลทีของยุโรปในประเทศ ชิลี นักดาราศาสตร์ได้ศึกษาภาพของแหล่งปล่อยรังสีเอ็กซ์ ซึ่งสุกสว่างที่สุดเท่าที่เคยพบ แหล่งปล่อยรังสีเอ็กซ์นี้มีชื่อเรียกว่า HLX-1 ข้อมูลเกี่ยวกับระยะทางและความสว่างของแหล่งที่ว่านี้ บ่งบอกว่ามันอาจมีหลุมดำที่มีมวลปานกลางอยู่ในนั้น
รายงาน ซึ่งตีพิมพ์ใน Astrophysical Journal บอกว่า ถ้าได้รับการยืนยัน HLX-1 จะถูกจัดเป็นหลุมดำที่มีมวลปานปลาง ซึ่งนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์สันนิษฐานมานานแล้วว่าน่าจะมีอยู่ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยตรวจพบอย่างชัดเจน
หัวหน้าทีมวิจัย คลาส ไวร์ซีมา แห่งภาควิชาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัยไลเซสเตอร์ บอกว่า หลังจากตรวจพบแหล่งปล่อยรังสีเอ็กซ์ที่สว่างมาก นักวิทยาศาสตร์ก็อยากรู้ว่ามันอยู่ไกลแค่ไหน เพื่อคำนวณว่ามันปล่อยรังสีออกมามากเพียงใด
แหล่ง ปล่อยรังสีเอ็กซ์นี้อยู่ใกล้กับใจกลางของกาแล็กซีขนาดใหญ่ที่สว่างมากแห่ง หนึ่ง เมื่อใช้กล้อง Very Large Telescope วัดระยะทางและระดับรังสีที่ถูกปล่อยออกมา ก็ได้ข้อสรุปว่าภายในกาแล็กซีนั้นมีหลุมดำขนาดกลางอยู่จริง ๆ กาแล็กซีนี้อยู่ห่างจากโลก 300 ล้านปีแสง
นัก ดาราศาสตร์เชื่อว่า ที่ใจกลางของกาแล็กซีแทบทั้งหมดล้วนมีหลุมดำขนาดอภิมหายักษ์อยู่ และหลุมดำขนาดกลางนี้อาจเป็นต้นแหล่งของหลุมดำขนาดยักษ์
"การเข้าใจว่าหลุมดำอภิมหายักษ์มีการก่อตัวและขยายตัวอย่างไร มีความสำคัญต่อการเข้าใจการก่อเกิดและวิวัฒนาการของกาแล็กซีของเราเอง ซึ่งจะช่วยตอบคำถามใหญ่ข้อหนึ่งที่ว่า กาแล็กซีของเราเกิดและเติบโตมาอย่างไร" ฌอน ฟาร์เรล นักดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยไลเซสเตอร์ อธิบาย

เพลงเสียดาย^^

เพลงรอเธอโสด